แนวทางใหม่ในการรักษามะเร็งปากมดลูกที่อยู่ในการวิจัยและมีแนวโน้มที่ส่งเสริมผลการรักษาในปี 2014 ที่มีในบทสรุปของ American cancer society เป็นวิธีการรักษาและการวิจัยที่มีรายงานอยู่บ้างแล้ว แต่ยังต้องการข้อมูลจำนวนที่มากพอเพื่อการสรุปที่ชัดเจนต่อไป แนวทางเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาให้การรักษาเชิงวิจัย สำหรับผู้ที่สนใจเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ( อ่านบทการรักษาเชิงวิจัย )
1. Sentinel Lymph Node Biopsy
ในการผ่าตัดมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 โดยมาตรฐานจะต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองในช่องเชิงกรานออก
เพื่อตรวจดูการลุกลาม แต่ด้วยเทคนิคใหม่ แทนที่จะเลาะต่อมน้ำเหลืองทั้งหมด เทคนิคที่เรียกว่า Sentinel
Lymph Node Biopsy เป็นการตัดดูจำเพาะต่อมน้ำเหลืองส่วนหนึ่งที่มีโอกาสจะเกิดการกระจายของโรค
โดยการใช้ Blue Dye
ซึ่งเป็นสีที่มีส่วนประกอบของสารรังสี ฉีดเข้าในก้อนมะเร็งเพื่อให้เข้าสู่ระบบทางเดินน้ำเหลือง ทำให้เราสามารถที่จะชี้ชัดและเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รับการถ่ายเทน้ำเหลืองจากก้อนมะเร็งด้วยรังสีและ
Blue Dye
นั่นหมายความว่าหากมีการกระจายมาทางต่อมน้ำเหลือง ต่อมน้ำเหลืองดังกล่าว จะเป็นสถานีแรกที่รับการกระจายมา
ดังนั้นถ้าต่อมนี้ไม่การกระจายของมะเร็งก็ไม่จำเป็นต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองเม็ดอื่นๆ
การเลาะจำนวนต่อมน้ำเหลืองที่น้อย จะลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ ในปัจจุบันยังมีเทคนิคอื่นที่ใช้
คือ Robotic (Laparoscopic) assisted
near infrared imaging หลังฉีดสี Indocyanine green (ICG)
dye ที่ปากมดลูก ตัวอย่างการใช้ เทคนิคการทำ Sentinel Node Biopsy ที่ได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐานคือ การรักษามะเร็งเต้านม ที่มีการตรวจดูการกระจายของต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้เป็นต้น
2. HPV Vaccines
เป็นการนำวัคซีน ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เกี่ยวเนื่องกับการเกิดมะเร็งปากมดลูก ในปัจจุบันจะมีวัคซีนที่ป้องกัน สายพันธุ์
HPV ที่ 16 and 18 ซึ่งผู้หญิงที่ได้วัคซีน
แม้จะสัมผัสเชื้อก็จะไม่ติดเชื้อ HPV ในขณะเดียวกันบางวัคซีน ก็จะคลุมการติดเชื้อได้มากสายพันธุ์ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการติดตามดูผลการลดอุบัติการณ์มะเร็งปากมดลูก
นอกจากการป้องกันแล้ว ยังมีการศึกษาในกลุ่มที่ติดเชื้อ หรือกลุ่มที่เป็นมะเร็งแล้ว ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้มีการทำลายเชื้อไวรัสก่อนที่จะเป็นมะเร็ง หรือบางชนิดจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่ E6,E7 ทำให้เซลล์ เจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งเป็นความหวังจะหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
3.Targeted therapy
ตามที่มีการวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรหัสพันธุกรรมในมะเร็งปากมดลูก จึงมีการศึกษายามุ่งเป้า
ซึ่งจะมีความจำเพาะและมีภาวะแทรกซ้อนที่น้อยกว่ายาเคมีบำบัด ยากลุ่มนี้อาจจะใช้เป็นยาเดี่ยว หรือ
ร่วมกับยาเคมีบำบัดก็ได้ ตัวอย่างเช่น Pazopanib ที่มีรายงานเพิ่มอัตราการอยู่รอดมากขึ้นในมะเร็งระยะลุกลาม
4.
Hyperthermia
มีหลายรายงานที่ชี้ชัดว่าการให้ Hyperthermia
ซึ่งเป็นเพิ่มอุณหภูมืในก้อนมะเร็ง ร่วมกับการฉายรังสี ช่วยลดอัตรากลับเป็น
ทำให้มีอัตรากรอยู่รอดที่มากขึ้น (ดูในบทการใช้ความร้อนร่วมรักษาในมะเร็งปากมดลูก)
5.
Drug treatment of pre-cancers
การรักษามาตรฐานในกลุ่มก่อนเป็นมะเร็ง เช่น Cervical Intraepithelial Neoplasia;
CIN ได้แก่ Cryotherapy,
Laser treatment, และ Conization
ในปัจจุบันมีการใช้ยาที่ให้ผลที่มีแนวโน้มที่ดี มีรายงานการศึกษาในผู้ป่วย CIN2 or CIN3 ได้รับยา Diindolylmethane (DIM) 12สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยบางรายมีการหายหมดของรอยโรค ในบางรายงานใช้ยาต้านไวรัส Cidofovir ทำให้มีการหายของรอยโรคมากกว่าครึ่งหนึ่งในกลุ่มของ
the CIN
ยังมียาต้านไวรัสอื่น เช่น Imiquimod ที่ให้ผลเป็นที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามต้องมีการศึกษาอีกเป็นจำนวนมากจึงจะมีการสรุปได้ในกลุ่มนี้ได้
แหล่งข้อมูล
: American Cancer Society Last Medical Review: 09/19/2014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น