วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทีมสู้มะเร็ง ตอน ดิฉันเป็นมะเร็งเต้านมและหายแล้ว

           
ในกระบวนการการเรียนรู้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเรียนรู้จากของจริง การนำประสบการณ์ที่ผู้ป่วย, ญาติผู้ป่วย เขียนหรือเล่าให้ฟัง จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

วันนี้ขอนำจดหมายของผู้ป่วยรายหนึ่ง ได้เขียนเล่าเรื่องประสบการณ์ และความรู้สึกแบบสั้นๆ ว่า “ดิฉันเป็นมะเร็งเต้านมและหายแล้ว”       

เมื่อก่อนดิฉันเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไรมาก มีแต่คนรอบข้างที่เป็นอาการหนักๆ พ่อแฟนเป็นมะเร็งหลายที่มาก แต่คุณหมอก็มีวิธีการรักษาให้ทุเลาและมีชีวิตอยู่ต่อมาได้ ราว 5-6 ปี

อยู่มาวันหนึ่ง ดิฉันเกิดเป็นเนื้องอกข้างเต้านมปูดขึ้นมา เลยรีบมาหาคุณหมอ เพื่อตรวจเช็คดู คุณหมอท่านก็รับทำ scan ดูเลย พบว่าก้อนที่ปูดขึ้นมา เป็นเพียงก้อนไขมัน แต่มาเจอก้อนเนื้อที่ตรงเต้านมข้างซ้าย มีขนาด ใหญ่ไม่มาก 0.8 ซม. คุณหมอบอกว่าโชคดีที่เจอ แต่โชคร้ายที่จะต้องเอาออก  ดิฉันจึงผ่าออกและเอาก้อนเนื้อมาตรวจ ก่อนที่จะตัดไหม ก็ทราบผลว่าเป็นมะเร็ง นั่นหมายถึงว่า ดิฉันจะต้องทำการผ่าตัดอีกครั้ง โดยการเลือกว่าจะตัดเต้าทิ้งทั้งหมด หรือ เลาะเนื้องอกออก และตามด้วยการฉายรังสี ซึ่งดิฉันเลือกการเลาะเนื้องอกออก

ในเวลานั้น เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง จิตใจมันสับสนไปหมด กลุ้มใจ คิดไปต่างๆนานา ทำไมมาเกิดกับเรา แล้วเราจะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน เมื่อทำการรักษาจนจบคอร์ส กลับมารักษาตัวที่บ้าน  ขณะนั้นไม่ได้ทำงาน อยู่ระหว่างพักงาน ความรู้สึกต่างๆก็เริ่มเข้ามาอีก บางคนก็ให้ไปรักษาแบบชีวจิต แนะนำให้ไปในทางต่างๆ ดิฉันเป็นคนสมัยใหม่ คิดว่าเมื่อเราผ่าตัดแล้ว ทำไมต้องไปรักษาแบบนั้น เพียงแต่นำบางอย่างมาใช้ เช่นห้ามทานอะไร ก็นำมาปฏิบัติ

เพื่อนๆรอบข้าง บางคนก็ทำให้ดิฉันมีความรู้สึกว่า เราเป็นโรคร้ายใช่ไหม เขาจึงทิ้งห่างออกไป ไม่อยากคบกับเราอีก ดังนั้นเมื่อมีใครถาม ดิฉันก็ตอบเพียงว่าเป็นเนื้องอก กลัวเขารังเกียจ กลัวเขาจะไม่คบกับเรา 

โชคดีที่ญาติพี่น้องและเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง  พยายามอธิบายให้ฟังว่า โรคมะเร็งไม่ได้เป็นโรคที่น่ารังเกียจ รักษาได้ ไม่ติดต่อ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย ชีวิตเป็นของเรา และยกตัวอย่างผู้ที่หายแล้วให้ฟัง เวลาผ่านไป ความมั่นใจที่รู้สึกว่าตัวเองสบายดี  หลังจากนั้น เมื่อมีใครถามว่าเป็นอะไร จึงไปโรงพยาบาล ดิฉันก็ตอบตรงๆว่า ดิฉันเป็นมะเร็งเต้านมและหายแล้ว    
  

ดิฉันเข้าใจแล้วว่า เมื่อเราเป็นและรีบรับการรักษา ปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง  ทำจิตใจให้สดใส ไม่เครียด  ก็จะทำให้สุขภาพดีขึ้น เมื่อรู้ว่าไม่สบาย ผิดปกติบริเวณไหน โปรดมาหาหมอ อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินกว่าจะรักษาได้

ครับ อย่าลืมนะว่า มะเร็งมีสิทธิ์คิดป้องกันและรักษานะครับ อย่ากลัวที่จะตรวจ อย่าลังเลที่จะรักษา เหมือนเจ้าของจดหมายนี้ที่ผ่านมรสุมร้ายมาแล้วเกือบ 20 ปี

หากท่านผู้อ่านมีประสบการณ์ที่จะช่วยเป็นแบบอย่างหรือสร้างกำลังใจให้กับทีมสู้มะเร็ง ก็อย่าลังเล แลกเปลี่ยนความรู้และแนะนำมากันเลยนะครับ

หมายเหตุ เนื้อหาของจดหมาย เป็นไปตามต้นฉบับทุกประการครับ


2 ความคิดเห็น:

  1. ยินดีที่คุณหายจากโรคแล้วนะคะ เป็นกำลังใจให้มีความสุขเบิกบานตลอดไปค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่แบ่งปันเล่าเรื่องให้พวกเราได้ป้องกัน

    ตอบลบ