วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทีมสู้มะเร็ง ตอน ความสุขที่กลับมา

 ภาพประกอบจาก : http://www.sharecare.com/health
ไม่มีใครอยากมีทุกข์ แต่ชะตากรรม เหนือการควบคุม อุบัติเหตุ โรคร้าย โชคร้าย อาจเป็นฟ้ากำหนด   วันนี้ด้วยบังเอิญโชคร้ายที่เราเป็นมะเร็ง  ซึ่งไม่มีใครอยากได้ยิน ไม่มีใครอยากได้เห็น แต่ เราต้องพบและเห็นมันอยู่กับเรา จึงขึ้นอยู่กับเราจะกำหนดจัดการให้มันอยู่กับเราอย่างไร

ผมมีตัวอย่างที่น่าทึ่งของผู้หญิง ที่น่ารัก บอบบาง แต่แววตาและกำลังใจแกร่งยิ่งกว่าเพชร แม้บางครั้งจะมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่บ้าง แต่เป็นเพียงชั่วอึดใจ เธอก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะได้ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอ ว่าภายในหัวใจของเธอเป็นเช่นใด   แต่ทุกวันนี้ เธอเรียกความสุขของครอบครัวกลับมาอย่างน่ายินดียิ่ง

เธอมารักษาเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ด้วยเรื่องมะเร็งเยื่อบุผนังลำคอ (posterior pharyngeal wall tumor) เธอได้รับการรักษาด้วยการฉายรังสีร่วมกับยาเคมีบำบัด ตอนนั้นลูกยังเล็ก สิ่งที่เธอกังวลและกลัวมาก คือ ใครจะดูแลลูกของเธอ เธออดทนสู้กับการรักษาอย่างเข้มแข็ง ลำพังมะเร็งอย่างเดียวก็มีอาการเจ็บคอแล้ว ลองนึกถึงเมื่อเรามีแผลที่ปาก หรือ ลิ้น โคนลิ้น เวลากลืนอาหารจะเจ็บปวดขนาดไหน   เมื่อเพิ่มการอักเสบของเยื่อบุที่เกิดจากรังสี และยาเคมีบำบัดจะต้องปวดมากขึ้นเพียงใด เธอสู้ทั้งน้ำตา
เมื่อเสร็จสิ้นการรักษา เธออยู่ด้วยความกังวลว่า โรคจะกลับมาหรือไม่

โชคร้ายในความโชคดี แม้ว่าโรคเธอจะหายแล้ว  แต่เธอก็อยู่ในกลุ่ม 5 % ที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน ของการเกิดพังผืดที่คอ  ถึงจะได้รับการดูแลและปฏิบัติอย่างดีก็ตาม เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องการกลืน ซึ่งแพทย์ ก็พยายามที่จะขยายหลอดอาหารส่วนบนให้ แต่ท้ายที่สุด เธอต้องเจาะหน้าท้อง เพื่อใส่อาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะเธอกลืนลำบาก บางครั้งมีการสำลัก

ในช่วงปีแรกๆ ทั้งครอบครัวกอดคอกันร้องไห้ ชีวิตวัย 30 ต้นๆที่เคยมีความสุข ไปทานข้าวนอกบ้าน ทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุด การเข้าสังคมหายไปหมด ทุกวันต้องกินข้าวต้มเละๆ และใส่อาหารปั่นทางหน้าท้อง 

สามีและลูกเล็กที่น่ารักอยู่เคียงข้าง โดยไม่ยอมทิ้งเธอไปไหน แรกๆก็พอไหว แต่ต่อมาก็ติดขัดปัญหามากมาย ในที่สุดเธอก็คิดขึ้นได้ว่า ไม่ใช่แล้ว ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่แน่ๆ เธอจะไม่ยอมให้คนที่รักเธอและเธอรัก ต้องมาทุกข์ หรือ อดทน เพราะเธอ

วันหนึ่งเธอจึงชวนสามีและลูกออกไปทานข้าวนอกบ้าน ทุกคน ตื่นเต้น ดีใจ เธอแต่งตัวในชุดที่ไม่ได้ใส่มานาน ออกไปร้านอาหาร สั่งอาหารที่สามีและลูกชอบมากิน นาทีที่อาหารถูกเสิร์ฟ สามีและลูก รู้สึกแย่ที่เธอทานไม่ได้ แต่ด้วยความเข้มแข็ง เธอเปลี่ยนเรื่องและชวนคุยอย่างสนุกสนาน และจิบน้ำผลไม้ ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี สามีและลูกทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เธอมีความสุขที่ครอบครัวมีความสุข เธออิ่มใจและกลับบ้านมาอิ่มท้องด้วยการใส่อาหารของเธอทางสายยาง แล้วเข้านอนด้วยความสุข

ต่อมาเธอเริ่มเข้าสังคมกับเพื่อนสนิทไม่กี่คน ที่รู้กันดีถึงปัญหาของเธอ ครั้งหนึ่งเธอร่วมเดินทางท่องเที่ยว เมื่อถึงเวลาพักทานอาหาร เธอก็นั่งคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน  พอทุกคนทานอาหารเรียบร้อย เธอก็บอกกับทุกคนว่า ทุกคนอิ่มแล้วใช่ไหม ถึงตาฉันบ้าง ว่าแล้วเธอก็เข้าห้องน้ำใส่อาหารทางสายยาง และเดินทางต่อ วันต่อมาในตอนเช้า เธอก็ตื่นมาดูทะเลหมอกพร้อมเพื่อนๆ สดชื่นกับอากาศบริสุทธิ์  เธอพูดได้ประทับใจมาก

ทุกคนที่รักฉันอยากให้ฉันมีความสุข เมื่อฉันมีความสุข ทุกคนที่ฉันรักก็จะมีความสุขด้วย ”

ผมชื่นชมเธอจริงๆครับ

ผู้ป่วยทุกท่านโปรดเอาความสุขกลับมา  อย่าให้มันหายไป กับความท้อแท้และอ่อนแอ ลุกขึ้นสู้ชีวิตแม้กำไรไม่มาก ก็อย่าขาดทุน  จึงจะเป็นชีวิตที่มีความหมายนะครับ
           


2 ความคิดเห็น:

  1. ดิฉันจะทำได้เหมือนอย่างเธอหรือเปล่าหนอ. เก่งจริงๆที่สามรถทำได้เช่นนี้ชื่นชมด้วยคนค่ะ

    ตอบลบ
  2. เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะขอให้มีความสุขมากๆ

    ตอบลบ