วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทีมสู้มะเร็ง: การบอกข่าว (ร้าย) ตอน ญาติไม่ต้องการให้ผู้ป่วยรู้ว่า...เป็นมะเร็ง

ในกรณีที่ญาติไม่ต้องการให้  ผู้ป่วยรู้ว่า...เป็นมะเร็ง

สำหรับโรคทั่วไปอาจจะไม่มีปัญหา แต่มะเร็งเป็นโรคจำเพาะจริงๆ การบอกความจริงกับผู้ป่วยอาจจะเกิดผลเสียได้ แต่การที่ญาติไม่อยากให้แพทย์บอกผู้ป่วยเลย  คงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก โดยเฉพาะการรักษาที่มีผลกระทบต่อผู้ป่วย ในบางกรณีภาวะแทรกซ้อนนั้นอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้   จึงเป็นความเห็นที่ขัดแย้งกันบ่อยครั้ง ระหว่างผู้รักษากับญาติผู้ป่วย

ภาพประกอบจาก : http://www.sharecare.com/health
ในกรณีเช่นนี้ ควรหาโอกาสสื่อสารกับญาติของผู้ป่วยก่อน จะด้วยเทคนิคใดก็ตาม เช่น ระหว่างผู้ป่วยที่เข้าห้องเจาะเลือด หรือในบางกรณีอาจนัดญาติคุยกันนอกรอบก่อนที่จะพบผู้ป่วย ข้อสำคัญคือไม่ควรแยกผู้ป่วยและญาติออกจากกัน โดยให้ญาตินั่งคุยต่อ ในห้องกับแพทย์ เพราะจะเป็นการสร้างความไม่วางใจ และอาจจะทำให้ผู้ป่วยคิดมากได้

ทั้งนี้การพูดคุยระหว่างแพทย์กับญาติ ก็เพื่อปรับมุมมองและสภาวะอารมณ์ของตัวญาติเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีอารมณ์ร่วมในความกลัวต่อโรคของผู้ป่วย   ทำให้ญาติมักจะคิดว่าการบอกข่าวร้าย  จะทำให้ผู้ป่วยไม่มีกำลังใจต่อสู้ อาการทรุดลง ได้  ถ้าการประเมินว่าโรคจะรุนแรง ก็อาจจะปรับวิธีการบอกข่าวร้ายแบบค่อยเป็นค่อยไป   ให้มีจำนวนครั้งมากขึ้นจนเกิดความเข้าใจทั้งทีมว่าเป็นธรรมชาติ และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้ป่วยจะได้รับ

ในบางครั้งสิ่งที่ญาติคิดว่าดี อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการก็ได้ หมอและญาติควรได้ประเมินตัวผู้ป่วยก่อนว่าอยากรู้เพียงใด

ในบางกรณีต้องคำนึงถึงโครงสร้างครอบครัวของผู้ป่วยด้วย ว่าใครมีส่วนในการตัดสินใจมากน้อยต่างกันอย่างไร  บางครั้งอาจจะเป็นภรรยา บางครั้งเป็นลูก ซึ่งอาจจะมีหลายคน  สิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณา หากสามารถกระทำได้ คือ การนัดพูดคุยพร้อมกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน การวางแผนการรักษาจึงจะดีที่สุด 

ในบางกรณีหมออาจไม่บอกผลกับผู้ป่วยก็ได้ เช่นในกรณีที่ผู้ป่วยอายุน้อยหรือมากเกินไป หรือ พ่อแม่สูงวัยที่ลูกๆเป็นคนรับผิดชอบ  หรือผู้ป่วยที่มีความคาดหวังสูงเกินไป

หลายครั้ง หน้าทะเบียนประวัติ จะมีโน้ตเล็กๆติดมาว่า
ญาติไม่อยากให้ผู้ป่วยรู้ว่าเป็นอะไร

สำหรับผู้ที่มีการศึกษาสูง หรือผู้ที่ไฝ่หาความรู้ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ จะรู้ว่าการฉายรังสีและยาเคมีบำบัด เป็นวิธีการรักษามะเร็ง จึงเป็นเรื่องยากไม่น้อยครับที่จะให้แพทย์ปกปิด ถึงขั้นที่เรียกว่าต้องโกหก ซึ่งจะเป็นผลเสียในระยะยาวที่ทำให้ความสัมพันธ์ของแพทย์และผู้ป่วยที่ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกันครับ

การแจ้งข่าวร้ายกับผู้ป่วยเป็นทักษะการสื่อสารที่มีความจำเป็นมาก สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องร่วมกันทำงานเป็นทีมกับญาติผู้ป่วย ต้องมีการเตรียมพร้อมเผชิญกับทุกปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ต้องรู้จักยืดหยุ่น ยึดหลักการ ปรับวิธีการให้เหมาะสมในแต่ละราย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราจะรับมือกับข่าวร้าย และผ่านพ้นไปด้วยความรอบคอบ มั่นคง ทำทุกอย่างด้วยสติ ลดทุกข์สร้างสุขกับสิ่งที่ควรจะเป็นหรือต้องเป็นเพื่อพวกเราทุกฝ่ายนะครับ


                     


3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ12 ธันวาคม 2557 เวลา 20:36

    ขออภัยค่ะคุณหมอจะเรียนถามเร่ืองที่ลงผ่านมานานค่ะติดใจเร่ืองมะเร็งหนังศรีษะขออนุญาตถามคร่าวๆว่าน่ารังเกียจมากไหมรักษาหายได้หรือไม่ขอบพระคุณค่ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 ธันวาคม 2557 เวลา 04:21

    อยากทราบเหมือนกันครับว่าผู้หญิงกับผู้ชายใครเป็นมากกว่ากันครับมีสาเหตุจากแชมพูมีสารเคมีแรง?

    ตอบลบ
  3. ผมขอนุญาติตอบสั้นๆนะครับ

    ความน่าเกลียด ขึ้นอยู่กับชนิด และระยะของโรคว่ามีขนาดใหญ่ แตกเป็นแผล ลุกลามมากน้อยแค่ไหน
    มะเร็งหนังศีรษะ มีหลายชนิด เพราะมีตั้งแต่ผิวหนัง ต่อมเหงื่อ และเนื้อเยื่อ ในที่นี้จะพูดถึงเฉพาะมะเร็งผิวหนัง ซึ่งจะมี 3 กลุ่ม คือ Basal cell carcinoma , Squamous cell carcinoma และ Melanoma

    ในกรณีที่เป็น 2 ชนิดแรก โอกาสหายขาดสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การฉายรังสี แต่หากเป็นชนิดที่ 3 ซึ่งเป็นมะเร็งเม็ดสี กลุ่มนี้พยากรณ์โรคไม่ดี มีการกระจายสูง โอกาสหายจะอยู่ที่ผ่าตัดได้หรือไม่ครับ

    ตอบลบ