วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทีมสู้มะเร็ง (ตอนที่ 8)- ใจเหนือทุกข์ ตอน พลัดพรากเป็นเรื่องของสังขาร


ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยก็มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นทิ้งระเบิดที่ฝั่งธนบุรี    มีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งอายุมากแล้ว และมีโรคหอบเป็นโรคประจำตัว นั่งสมาธิอยู่ในกุฏิด้วยความสงบ     ลูกศิษย์วัดก็วิ่งกระหืดกระหอบมา และตะโกนว่า หนีเถอะหลวงตา เขาทิ้งระเบิดใกล้วัดแล้ว พระท่านก็ตอบด้วยความสงบว่า จะให้หนีไปไหน วิ่งก็ไม่ไหว วิ่งก็เหนื่อย เหนื่อยก็ทรมาน วิ่งไปหัวใจวาย ก็ตายเหมือนกัน ถ้าจะต้องตาย ที่ไหน วันไหน  ก็ตาย ไม่ต้องหนี นรก สวรรค์ มีจริง ทำดี เราก็ไปสวรรค์ ที่ที่เราจะมีความสุข

สังขารเรานั่นเสื่อมแล้ว เหมือนต้นไม้ที่เริ่มเหี่ยวเฉา ผุพังไปเรื่อยๆ ความสวยความงามก็ไม่มี ใบไม้ ที่จะให้ความร่มเย็น ก็เหลือน้อยแล้ว เป็นภาระของผู้ปลูกที่จะใส่ปุ๋ยรดน้ำ 

คิดดูซิ ทุกวันนี้ ทุกข์ทรมานจากการหอบ เหนื่อย จะเดิน จะนั่ง ก็ไม่เป็นสุข กลางคืน เวลาอาการหนาว ก็ปวดไปหมด เหนื่อยหอบ ต้องรบกวนญาติโยมตอนดึก เพื่อนำส่งโรงพยาบาล รู้นะว่าทุกคนยินดีที่จะทำ  แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราทรมาน  ทุกคนจะบอกว่า อดทนอีกนิดจะถึงโรงพยาบาลแล้ว เราไม่อยากบอกให้ทุกคนเสียกำลังใจว่า  ตัวเราเอง อยากหลับไปเลย

ด้วยบันทึกของเหตุการณ์นี้ หลายครั้งที่ผมมองหน้าผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมาน บนเตียง เขามีสีหน้าของความเจ็บปวด อยู่ด้วยอารมณ์ของความซึมเศร้า วิถีชีวิตของญาติที่เปลี่ยนไป บางคนต้องลาออกจากงาน บางคนต้องหยุดกิจการ บางคนต้องเดินทางมากขึ้น พักผ่อนน้อยลง แม้รู้ว่าทุกคนยินดีที่จะต่อสู้เพื่อให้ผู้ป่วยดีขึ้น    แต่ไม่รู้หรอกว่ามากน้อยของความทุกข์ของผู้ป่วยที่เราจะช่วยบรรเทาได้มากน้อยของความทุกข์ทรมานที่ผู้ป่วยต้องรับ แต่เขาต่อสู้ เพราะกลัวทุกข์ของการพลัดพราก ที่จะเกิดขึ้นทั้ง 2 ด้าน ดังนั้น ณ โอกาสใด  ที่ผู้ป่วยเองรู้สึกสุดจะทนกับความทุกข์ทรมาน คิดได้แล้วว่าสังขารนั้นไม่เที่ยง หากญาติก็เข้าใจดีว่าโรคนั้นสุดจะเยียวยา  การต่อสู้ เพื่อยืดชีวิตที่ทรมาน โดยไม่มีความหวัง พร้อมกันนั้นความกังวล ความเป็นห่วง ผู้ที่จะต้องอยู่เบื้องหลัง ล้วนเป็นทุกข์ การยอมรับให้ได้ว่า  พลัดพรากเป็นเรื่องของสังขาร  การปรับเข้าหากันอย่างเหมาะสมของความคิด  องศาแห่งความทุกข์ก็จะลดน้อยลง   


ณ บรรทัดนี้ผมขอยืนยันนะครับว่า เราไม่ท้อ เราจะสู้ ทุกวิถีทาง ขอให้ผู้ป่วย ญาติ และหมอ เป็นทีมเดียวกัน ปรึกษากัน ข้อคิดนี้เป็นเพียงความที่อาจจะเป็นอีกด้านหนึ่ง  ที่เราไม่สามารถฝืนได้เท่านั้นครับ อย่าหมดกำลังใจนะครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ27 ตุลาคม 2557 เวลา 05:22

    อยากเป็นโรคที่ไม่ต้องทุกข์ทรมานหรือไม่ต้องเป็นโรคตายเพราะความชราภาพ

    ตอบลบ