วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทีมสู้มะเร็ง ตอน การบอกข่าว ( ร้าย ) จำเป็นต้องบอกหมดหรือไม่

เราได้เรียนรู้วิธีการบอกข่าวร้ายมาแล้ว

ภาพประกอบจาก : http://www.sharecare.com/health

คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งคือ  ข่าวร้ายนี้จำเป็นต้องบอกหรือไม่  แม้ในปัจจุบันข้อมูลส่วนใหญ่จะสรุปว่าควรบอก เพราะเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะทราบ ในโรงพยาบาลบางแห่งจึงประกาศสิทธิแม้แต่ฟิล์มเอกซเรย์ก็เขียนว่าเป็นสมบัติของผู้ป่ว   และเชื่อว่าผู้ป่วยที่รู้ผลวินิจฉัยชัดเจนอาจมีผลการรักษาที่ดีกว่าในระยะยาว

ข้อความข้างต้นนี้ ไม่ผิดเลย เพราะหากเขาไม่รู้การวินิจฉัยที่แท้จริง ไม่รู้แนวทางการรักษา    เป็นไปได้ที่เขาจะเลือกหนีไปรักษาวิธีอื่นๆ ที่สร้างความสบายใจ แต่การบอกความจริงทั้งหมดอาจสร้างความท้อแท้  หมดอาลัย    เขาจะวิ่งหาสิ่งที่เป็นความหวัง แนวทางโฆษณาบางแห่งไม่คำนึงถึงจริยธรรม  ขนาดที่บอกว่า ไม่มีผู้ป่วยรายไหนที่เขารักษาไม่ได้  รักษาได้ทุกโรค ทุกระยะ เป็นความหวังสุดท้ายของผู้ป่วย
ผมขอย้ำอีกครั้งในฐานะแพทย์ที่ดูแลโรคจำเพาะมานาน อย่ายัดเยียดสิทธิให้เขา ให้เขาตัดสินใจว่าจะใช้สิทธิหรือไม่

เมื่อเขาใช้สิทธิ การบอกทั้งหมด หรือ การบอกครึ่งหนึ่ง สิ่งใดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย เรามีสิทธิที่จะเลือกได้               
 
เช่น  เมื่อคนไข้ปอดไม่ดี  การบอกว่าปอดไม่ดี คุณเป็นมะเร็ง  อาจจะทำให้ผู้ป่วยที่ยังไม่เตรียมใจในการพบกันครั้งแรก  ช๊อคได้ครับ  เรามีวิธีหรือโอกาสในการ   บอกได้มากมาย  แต่หากไปกลัวคนไข้ใจเสีย แล้วบอกว่าปอดดี คือการโกหก 100 % อาจทำให้ผู้ป่วยละเลยการรักษาได้  ตัวอย่างที่อาจแนะนำดังนี้
ปอดไม่ค่อยดีนะครับ  อาจจะมีความเสี่ยงเป็นเนื้อร้ายครับ คงต้องตรวจอีกครั้ง  ช่วยกันกับหมอตั้งใจรักษานะครับ

ปอดไม่ดีครับ  มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ อย่าเพิ่งตกใจนะครับ ต้องตรวจเพื่อความแน่นอ แต่หากพบว่าเป็น เราจะช่วยกันเต็มที่แน่นอน

ปอดไม่ค่อยดี  เหมือนคนสูบบุหรี่จัด อาจจะมีเนื้อร้ายซ่อนอยู่หรือไม่มีก็ได้ เราต้องตรวจให้แน่ใจอีก ครั้งครับ

ปอดไม่สู้ดี ต้อง รักษาเรื่องปอด แล้วค่อยๆตรวจต่อไปครับ

ผมเชื่อว่า แพทย์  พยาบาล บุคลากรทุกคน  พูดด้วยความหวังดีมีจริยธรรมทำหน้าที่ดีที่สุดกับทุกคนอยู่แล้วครับ

ประโยคใดก็ตามที่จะผ่อนคลายไม่ให้ผู้ป่วยหวาดผวาจนเกินกว่าเหตุ  นำไปสู่เรื่องที่คาดไม่ถึง เราต้องระมัดระวังมากครับ เพราะความหมายที่เราพูด อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เขาคิด หรือแปลความหมาย ก็ได้ครับ

การรักษาต้องทำเป็นทีม การบอกข่าวต้องมีกระบวนการดังที่กล่าวมาแล้ว   การบอกข่าวก็เป็นทีม  บางครั้งเราอาจะเผลอไป คิดว่าอยู่ในห้องเรียน ห้องประชุมที่มีการอภิปรายอย่างนักวิชาการ  ดังตัวอย่างที่เคยมีความผิดพลาดมาแล้ว และมีโอกาสผิดซ้ำอีก คือ แพทย์ท่านหนึ่ง ที่มาดูผู้ป่วยตามคำปรึกษาของแพทย์เจ้าของไข้ ที่ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อย หลังการรักษามาแล้ว  6 เดือน เมื่อตรวจแล้ว ตอนหนึ่งของการสนทนา ก็บอกกับผู้ป่วยว่า

 "คุณรักษามาตั้งนานแล้ว  มีใครบอกคุณหรือเปล่าว่า  เป็นอะไร ผมว่าชัดเจนแล้วนะครับ คุณเป็นมะเร็งระยะที่ 4  อาการที่เป็นสืบเนื่องจากโรคกำเริบมากขึ้น ไม่มีโอกาสหาย ที่ผ่านมาก็รักษามาอย่างดีแล้ว นับว่าโชคดีมากครับ"

ลองนึกเอาเองก็แล้วกัน เขามีชีวิตผ่านมา  6 เดือน ด้วยความสุข ด้วยความหวัง ดีกว่าการติดเชื้ออีโบลา หรือ อุบัติเหตุเครื่องบินตกเป็นไหนๆ คุณสามารถทำลายชีวิตเขาด้วยคำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจเพียง  2-3 ประโยค ในเวลา 1 นาที

ย้ำอีกครั้ง การบอกข่าว (ร้าย) เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่ตอบข้อสอบ บางครั้งไม่จำเป็นต้องบอกหมดก็ได้ครับ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น