ภาพประกอบจาก : http://www.sharecare.com/health |
นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์
กล่าวภายหลังเปิดประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงวันที่ 19-21
พฤศจิกายน 2557 นี้ว่าโรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของทั่วโลกและไทย จากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์
กระทรวงสาธารณสุขปี 2554
พบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปีละประมาณ 60,000 ราย หรือเฉลี่ย
7 รายต่อชั่วโมง และยังคงพบอัตราการเกิดโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชาย
คือ มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี ปอด ลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก ส่วนในเพศหญิง คือ
มะเร็งเต้านม ปากมดลูก ตับและทางเดินน้ำดี
ซึ่งการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องใช้ระยะเวลาต่อเนื่องและเสียค่าใช้จ่ายสูง จึงส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม
ด้าน นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1. สิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหาร อากาศ
เครื่องดื่ม ยารักษาโรค รวมทั้งการได้รับรังสี เชื้อไวรัส แบคทีเรียและพยาธิบางชนิด
2. พฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ ที่พบว่าร้อยละ 80
ของผู้ป่วยมะเร็งปอดเกิดจากการได้รับควันบุหรี่ การดื่มสุรา
รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือเค็มจัด
อาหารที่มีส่วนผสมดินประสิวและไหม้เกรียมเป็นประจำ และ
3. พันธุกรรม
ปัจจุบันแพทย์สามารถรักษามะเร็งหลายชนิดให้หายได้หากพบในระยะแรก
ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลยังพบด้วยว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งช่วยลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากมะเร็งบางชนิดได้
เช่น มะเร็งปากมดลูก ที่พบว่าภายหลังจากมีบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
พบจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตลดลงจากที่เคยพบอัตราการป่วยที่ 24
รายต่อแสนประชากร เหลือเพียง 16.7 รายต่อแสนประชากร
พร้อมกันนี้ในเดือนนี้ ก็ยังมีข่าวที่เกี่ยวเนื่องกัน คือ
ผู้มีชื่อเสียงในสังคมท่านหนึ่งเสียชีวิตจากมะเร็งปอด
พร้อมกับข่าวการไม่ลดลงของปัญหาบุหรี่ในประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 21
พ.ย. นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังจากคณะผู้แทนจากองค์การอนามัยโลกเข้ามาติดตามนโยบายการควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศไทยว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่าอัตราการบริโภคยาสูบของคนไทยไม่ลดลง แต่เมื่อดูสถานการณ์โดยรวมแล้วพบว่าในพื้นการควบคุมยาสูบในเขตเมืองค่อนข้างได้ผลดี
แต่พื้นที่ชนบทยังเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข
โดยเฉพาะขณะนี้พบว่าประชาชนหันมาสูบยาเส้น ซึ่งมีราคาถูกกว่าบุหรี่ซองเพิ่มมากขึ้น
จนสัดส่วนแตะที่ 50% ของผู้สูบบุหรี่ทั้งประเทศ
ท่านผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่า ปัญหามะเร็งยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ
ที่ต้องการความร่วมมือในการเผยแพร่ข่าวสาร
เพื่อให้ความรู้ในการป้องกันและตรวจคัดกรองอีกมาก ทั้งๆที่หน่วยงานของภาครัฐไม่ว่าจะเป็น กระทรวงสาธารณสุข หรือ สสส
หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
จะพยายามรณรงค์เรื่องบุหรี่มายาวนาน แต่สถิติที่ปรากฎก็ยังไม่ลดลง
เรามาช่วยกันสื่อปากต่อปากถึงทุกเรื่องของโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุ
การป้องกัน การตรวจค้น การดูแล รักษา
เพื่อคนที่ท่านรักและตัวท่านเองเถอะครับ
เพ่ือคนไทยด้วยกันและครอบครัวเร่เองทุกคนต้องร่วมมือในทุกด้านขอบคุณนะคะ
ตอบลบ