![]() |
ภาพประกอบจาก : http://www.sharecare.com/health |
มาเริ่มกันที่ส่วนต่างๆของทรวงอก, การสังเกตุลักษณะและความผิดปกติของเต้านม
ลักษณะปกติของเต้านม จะมีรูปร่างกลมรี
และมีลักษณะเปลี่ยนแปลงตามอายุ มีส่วนหางเรียวไปทางรักแร้ทั้ง 2 ข้าง ขนาดของเต้านมทั้งสองข้างจะเท่าๆกัน
และหัวนมอยู่ในแนวระดับเดียวกัน บางรายอาจมีหัวนมบุ๋มลงไปได้
แต่จะต้องเป็นมาแต่เดิม ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากลักษณะที่เป็นอยู่ตามปกติ
ควรตรวจเต้านมช่วงเวลาใดของเดือน
วันที่ควรตรวจเต้านม
คือ วันสุดท้ายของการมีประจำเดือนทุกเดือน เนื่องจากในช่วงต่างๆ ของรอบเดือน ขนาด
รูปร่าง และความตึงตัวของเต้านม จะมีลักษณะผิดแผกเล็กน้อย
อันเป็นผลเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศในร่างกาย
วิธีการตรวจ
![]() |
ภาพวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ท่าต่างๆ |
สังเกตุได้โดยการดู ตรวจโดยการดูในกระจก ซึ่งควรถอดเสื้อออกหมดทุกครั้ง
ท่า A คือ ท่ายืนธรรมดา ไหล่ตรง แขนแนบลำตัว
สังเกตขนาดและรูปร่างของเต้านมเปรียบเทียบกันทั้งสองข้าง ดูสีผิว
หรือการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณเต้านมและหัวนม
ท่า B ยกมือประสานกันทางด้านหลังของศีรษะ หรือยกมือสูงเหนือศีรษะ
โน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย สังเกตดูลักษณะเช่นเดียวกันกับท่ายืน
แต่จะแสดงส่วนล่างของเต้านมได้มากขึ้น อาจเห็นลักษณะนูนที่ผิดปกติ
หรืออาจจะมีรอยบุ๋มที่เกิดจากการดึงรั้งของก้อนชัดขึ้น
ท่า C ใช้มือทั้งสองเท้า สะเอว หรือวางมือทั้งสองลงบนสะโพก
สังเกตดูการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับ 2 ท่าแรก
โดยการคลำท่า D และ ท่า E ตรวจได้ขณะที่อาบน้ำหรือถูสบู่
จะทำให้คลำได้ความรู้สึกดี และชัดเจนมากขึ้น
หรือจะตรวจขณะที่นอนหงายและใช้หมอนหนุนบริเวณสะบัก
เพื่อให้หน้าอกข้างที่ตรวจแอ่นขึ้น และเต้านมจะแบนราบทำให้ง่ายต่อการตรวจ
ในการตรวจ ใช้นิ้ว 4 นิ้วคลำดังรูป ไม่ควรใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือหรือการตรวจแบบขยุ้ม
เพราะจะคลำได้ก้อนเนื้อต่อมน้ำนม ซึ่งอาจเข้าใจผิดว่าเป็นก้อนเนื้องอกได้
แต่การตรวจบ่อยๆ จะทำให้รู้สึกคุ้นเคยในการตรวจครั้งต่อๆ ไป
ท่า F บีบบริเวณหัวนมเบาๆ เพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติ เช่น
เลือดหรือน้ำเหลืองออกมาจากหัวนมหรือไม่
ลักษณะความผิดปกติที่อาจพบ และควรรีบปรึกษาแพทย์ ได้แก่
1.มีก้อนในเต้านม อาจมีอาการเจ็บด้วย
2.การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น
มีบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นขรุขระขึ้น รูขุมขนหยาบ มีลักษณะบวมเป็นหย่อมๆ
คล้ายผิวส้มโอหรือผิวมะกรูด หรือมีหลอดเลือดมากผิดปกติ มีรอยบุ๋มของผิวหนัง
มีการเปลี่ยนแปลงของหัวนมปกติไปเป็นหัวนมบอด
3.หัวนมหรือเต้านมสองข้างอยู่ในระดับไม่เสมอกัน
4.มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกจากหัวนม
หากตรวจพบสิ่งที่น่าสงสัย ควรเข้ารับการตรวจเพื่อการวินิจฉัยทันที
การตรวจเต้านมด้วยตนเองนี้
ถือเป็นมาตรฐานสำคัญในคำแนะนำการตรวจหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรกที่มีความสำคัญที่สุด
แต่ในกรณีที่มีประวัติในครอบครัว มีมารดาหรือพี่น้องที่เป็นมะเร็งเต้านม หรือ อยู่ในวัยที่เหมาสมในการตรวจ
คือ อายุ 35 ปี ก็อาจจะพิจารณาตรวจด้วยการเอกซเรย์เต้านม (Mammography)
ซึ่งจะมีข้อแนะนำความถี่ของการตรวจที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเมื่อพบความผิดปกติ ซึ่งจะมีแนวทางปฏิบัติตามชนิดของการตรวจพบ
ปัจจุบันมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยอันดับหนึ่งในสตรีไทย หมั่นตรวจเช็ค และใส่ใจสักนิด ท่านจะปลอดภัยจากมะเร็งเต้านม หรือสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีครับ
![]() |
ภาพประกอบจาก : http://www.sharecare.com/health |
บทความที่มีประโยชน์เข้าใจง่ายมากชอบมากขอบคุณคะ
ตอบลบ