วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

มาป้องกันปากมดลูกให้ปลอดภัยจากโรคมะเร็ง



NCCC (National Cervical Cancer Coalition) เป็นองค์กรหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่จัดตั้งขึ้นในปี 1996    เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร   มี วัตถุประสงค์เพื่อให้คำแนะนำและดูแลสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV และมะเร็งปากมดลูก

ต่อมาได้รวมกับ American Sexual Health Association (ASHA)   ซึ่งเป็นสมาคมที่ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศ   การจัดกิจกรรม อย่างต่อเนื่อง  เพื่อสื่อสารกับสังคมให้สนใจเกี่ยวกับปากมดลูก   โดยเน้นเรื่องการติดเชื้อไวรัส HPV  กับ ความจำเป็นของการตรวจค้นหาและป้องกันมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก   

ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศให้เดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการตระหนักถึงภัยเกี่ยวกับปากมดลูก คนไทยก็มีสถิติผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับปากมดลูกสูง เราจึงมาช่วยกันรณรงค์เผยแพร่ให้ความเข้าใจการป้องกันก่อนเกิดโรคให้มากขึ้นนะครับ              
   
เนื่องจากบล็อกนี้ได้ลงบทความเรื่องมะเร็งปากมดลูก และ ไวรัส HPV มาหลายครั้งแล้ว วันนี้ ผมจึงเรียบเรียง เรื่องการรักษามะเร็งปากมดลูก ในปี 2015  เพื่อความรู้ความเข้าใจกันเพิ่มมากขึ้นอีก

ในการรักษามะเร็งปากมดลูกนั้น  แบ่งเป็นระยะตามมาตรฐาน FIGO  ซึ่งแน่นอนที่สุด การป้องกัน การตรวจค้นในระยะเริ่มแรก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเซลล์ ที่เรียกว่า Pap smear หรือที่ก้าวหน้ามากในปัจจุบันที่เราเรียกว่า การตรวจ  HPV DNA ทำให้พบผู้ป่วยในระยะก่อนเป็นมะเร็ง และมะเร็งในระยะเริ่มแรกมากขึ้น   ทำให้สามารถรักษาด้วยการผ่าตัด   นำไปสู่โอกาสหายขาดเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  และในอนาคตเรายังฝากความหวังที่การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV ที่จะเป็นตัวก่อมะเร็งบ่อยๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้ สร้างความหวังที่จะทำให้มนุษย์เรา ปลอดภัยจากโรคมะเร็งปากมดลูก ในอนาคต

แต่ในปัจจุบัน มะเร็งปากมดลูก ยังเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 2 ของผู้หญิงไทย เรามีผู้ป่วยรายใหม่ เกือบหมื่นคนต่อปี และยังเสียชีวิต ถึง เกือบ 5,000 รายต่อปี  ซึ่งจากสถิติในทุกสถาบัน เราพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในระยะลุกลาม คือ ในระยะที่ไม่สามารถผ่าตัดได้  บางส่วนยังดื้อต่อการรักษา บางส่วน ก็มีข้อจำกัดในการรักษาแบบมาตรฐาน เช่น ไม่สามารถให้ยาเคมีบำบัดได้ การรักษามะเร็งในระยะลุกลามนี้ จึงยังเป็นปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาแนวทางการรักษาให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม   
                           
การรักษามาตรฐานในมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม คือ การใช้รังสีร่วมกับยาเคมีบำบัด ซึ่งได้รับการประกาศโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติของอเมริกา และเป็นที่ยอมรับทั่วโลกในปี 2000  ในการใช้ยาเคมีบำบัดที่ชื่อว่า  Cisplatin ร่วมกับรังสี แทนการใช้รังสีอย่างเดียว และต่อมาก็มีการพัฒนาการใช้ยาเคมีบำบัดใหม่ๆเข้ามา เช่น Gemcitabine

ที่น่าสนใจ คือ ผลการรักษายังอยู่ในระดับ 60-80 % ตามระยะโรคที่เป็น  การเหลือของรอยโรค การกลับเป็นใหม่ หรือ การไม่ตอบสนองต่อการรักษายังมีปรากฏให้เห็น 

แนวทางอื่นๆ ที่เริ่มมีการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชนิดของยา การเพิ่มชนิดยาเคมี เช่น Gemcitabine หรือ ยามุ่งเป้า ( Targeted Therapy ) ก็อยู่ในวงจำกัด ด้วยภาวะแทรกซ้อน และราคาที่แพง 

ที่น่าสนใจมากขึ้น และเป็นความหวังหนึ่ง ที่จะช่วยผู้ป่วยได้มากขึ้น คือ การใช้ความร้อน เรียกว่า Hyperthermia   ซึ่งมีรายงานการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ถึงผลการรักษาที่ดี ในระยะลุกลาม   รวมทั้งกลุ่มที่กลับเป็นใหม่ และกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ยาเคมีบำบัดได้

เห็นไหมครับว่า เราจะดูแลปากมดลูกให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ ตั้งแต่การป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV การตรวจค้น และรักษาให้หายขาดได้ แม้แต่มะเร็งที่ร้ายที่สุด  เราก็มีการพัฒนาแนวทางการรักษามาโดยตลอด เชื่อว่าในอนาคต ปากมดลูกจะปลอดภัยจากโรคมะเร็งครับ
                    
                     






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น