ภาพประกอบจาก : http://www.redorbit.com/news/space/ |
วันนี้ขอนำเรื่องการใช้ยา Nexavar ในมะเร็งธัยรอยด์ในระยะลุกลาม ซึ่งอนุมัติ โดย FDA เมื่อปลายปีที่แล้ว (2013) แต่อาจจะมีโอกาสช่วยผู้ป่วยได้
ในรายที่มีเงื่อนไข ตรงกับข้อบ่งชี้นี้
The US Food
and Drug Administration (FDA) อนุมัติให้ใช้ Nexavar (Sorafenib) ในการรักษามะเร็งธัยรอยด์ระยะลุกลาม ซึ่งเป็นยาที่ใช้กันทั่วไปในกลุ่มโรคมะเร็งตับและมะเร็งไต ยานี้ได้รับการอนุมัติในข้อบ่งชี้ใหม่ในผู้ป่วย มะเร็งธัยรอยด์ชนิด Differentiated ที่กลับเป็นใหม่หรือมีการแพร่กระจาย และไม่ตอบสนองต่อการใช้รังสีไอโอดีนในการรักษาแล้ว
นายแพทย์ Richard Pazdur
ผู้อำนวยการส่วน Hematology
and Oncology Products ใน FDA’s Center for Drug Evaluation and Research ได้กล่าวว่า มะเร็งธัยรอยด์ ชนิด Differentiated ยังคงเป็นโรคที่ท้าทายต่อการรักษา
แม้จะไม่ได้ผลจากการรักษามาตรฐานแล้ว ดังนั้นการอนุมัตินี้ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยในกลุ่มโรคนี้ซึ่งมีปัญหาในการรักษา โดยอาศัยพื้นฐานข้อมูลจากการวิจัยทางคลินิคในผู้ป่วย 417 คนที่
มะเร็งธัยรอยด์ ชนิด differentiated
ในระยะลุกลาม
ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยสารกัมมันตรังสีไอโอดีน ซึ่งเป็นมาตรฐานในการรักษามะเร็งกลุ่มนี้ ได้รับการรักษาด้วย Nexava
พบว่า Nexavar เพิ่มระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวโดยปราศจากโรคถึง
41% ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ได้รับยา
Nexavar อยู่โดยโรคไม่เติบโตเป็นระยะเวลาอย่าง 10.8 เดือนเมื่อเทียบ 5.8 เดือน ในกลุ่มที่ได้ยาหลอก (placebo = ยาที่ไม่มีฤทธิ์ทางยา)
ผลข้างเคียงที่อาจจะมี คือ ท้องเสีย อ่อนเพลีย ติดเชื้อ ผมร่วง มีผื่น
อาการผิวหนังที่มือเท้า น้ำหนักลด
เบื่ออาหารปวดท้อง หรือ ความดันโลหิตสูงฃ
ข้อสำคัญคือ ฮอร์โมนกระตุ้นการทำงานของต่อมธัยรอยด์ (TSH) อาจจะสูงขึ้น
ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการปรับยาธัยรอยด์ฮอร์โมน เพื่อไม่ให้ระดับ TSH สูงขึ้น
ขณะที่ได้รับยา Nexavar
แหล่งข้อมูล ACS News Center
หมายเหตุ : การรักษามาตรฐานทั่วไป ท่านผู้อ่านคงสามารถหาอ่านได้ จึงไม่ได้ลงในรายละเอียดของการรักษา การก้าวข้ามมาในเรื่องที่ไม่ใช่มาตรฐานปฏิบัติ ก็เพื่อให้ผู้อ่านได้มีข้อมูลในการปรึกษาแพทย์
ที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น