ช่วงนี้มีข่าวดี 2 เรื่องสำหรับวงการมะเร็ง
เรื่องแรก เป็นเรื่องของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงผลงานวิจัย และเตรียมต่อยอดการใช้ความร้อนรักษามะเร็งร่วมกับยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งตับ
และมะเร็งเต้านม ซึ่งทั้ง 2 ชนิด พบเป็นอันดับหนึ่งในผู้ชาย และผู้หญิงไทย
โดยในรายละเอียดของข่าวจาก Nation แถลงโดย นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ และ นพ.วีรวุฒิ
อิ่มสำราญ
ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ โดยมีหลักการทำงานโดยใช้ความร้อนที่ระดับ
42-43 องศาเซลเซียส ตรงไปที่เซลล์ใช้คู่กับยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 พบว่าผู้ป่วย ร้อยละ
22 มีการตอบสนองจนก้อนมะเร็งยุบหมด และกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย
พบว่าระยะเวลาเฉลี่ยการมีชีวิตรอดของผู้ป่วยร้อยละ 25 ที่ตอบสนองต่อการรักษา
มีอัตราการรอดชีวิตอยู่ที่ 15.3 เดือน ซึ่งหากรักษาด้วยวิธีปกติ มีอัตราการอยู่รอด
ที่ 2.7 เดือน เท่านั้น
นับเป็นข่าวดีที่อาจจะเป็นความหวังให้ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ได้
ข่าวที่ 2
เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นความก้าวหน้าในการบริการ ที่ไม่เพียงแต่การรักษาทางกายเท่านั้น
แต่ยังดูแลจิตใจทั้งผู้ป่วยและญาติ
ซึ่งที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก เมื่อวันที่14-19 พ.ค. 2557 ได้ให้ความสำคัญในประเด็นนี้เช่นกัน
โดยการนำร่องในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ 16 แห่ง ซึ่งได้เปิดการอบรมที่โรงพยาบาลราชวิถี โดย ศ.
นพ. รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แก่แพทย์พยาบาล เภสัชกร นักสังคมสงเคราะห์ นักโภชนาการ กว่า
250 คน
ทั้งนี้ ในหลายโรงพยาบาลของกรมการแพทย์ได้จัดสถานที่พยาบาลแบบกึ่งบ้าน และแยกเป็นอาคาร
รวมทั้งสร้างจิตอาสามาคอยดูแล เพื่อให้ผู้ป่วย
และญาติได้มีกิจกรรมร่วมกันได้มากขึ้น/ โดยจะจัดให้มีบริการอย่างทั่วถึง ในประเทศไทยเราจะมีกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งและไตที่เป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะมะเร็ง ทั้งนี้
โรคมะเร็งจัดเป็นปัญหาที่ใหญ่ เนื่องจากในระยะ 10 ปีทีผ่านมา
มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งถึงปีละ 60,000 คน และเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยทุกข์
ทรมานมาก
ทั้ง 2 เรื่องนับเป็นก้าวสำคัญในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งให้มีโอกาสหายจากโรค
หรือ คุณภาพชีวิตที่ดี แม้จะเป็นในระยะสุดท้ายก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น