ภาพประกอบจาก: http://www.medscape.com |
แม้เราจะมีข่าวการสูญเสียบุคคลสำคัญอยู่บ่อยๆ ซึ่งสร้างความเศร้าเสียใจและความกังวลต่อโรคมะเร็งเป็นระยะๆ แต่ในความเป็นจริง ท่ามกลางการสูญเสียเหล่านี้ โดยเนื้อแท้
การรักษามะเร็งดีขึ้นตามลำดับ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่ามะเร็งเริ่มกลายเป็นโรคเรื้อรัง ในวันนี้ขอนำความพยายามที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในการช่วยควบคุมโรคในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการกระจายที่ปอดความสำเร็จในการควบคุมโรคในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการกระจายที่ปอด
เป็นรายงานในที่ประชุม ASCO ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ประจำปี 2016 ของสมาคมมะเร็งในสหรัฐอเมริกา
ผลที่น่าพอใจ คือ
ระยะเวลาการอยู่รอดโดยปราศจากการลุกลามของโรคที่ยาวขึ้น ถึง 3 เท่าในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการกระจายในปอด โดยการผ่าตัดหรือ การฉายรังสี
หลังการได้ยามาตรฐาน (PFS Triples in Select Metastatic Lung Cancer Patients with Surgery or Radiation After Standard Chemo) ในกลุ่ม Oliogometastases ซึ่งหมายถึงมะเร็งปอดที่มีการกระจาย
ต่ำกว่า 3 แห่ง
ในการศึกษานี้
ได้ตั้งสมมุติฐานที่ว่าผู้ป่วยมะเร็งที่มีการกระจายที่ปอดอาจจะได้ประโยชน์จากการรักษาอย่างเต็มที่ด้วยการผ่าตัด หรือ การฉายรังสี
หลังการให้ยาเคมีบำบัด โดยเป็นแนวคิดและศึกษาจาก The University of Texas MD Anderson Cancer Center
Daniel Gomez, MD รองศาสตราจารย์
สาขารังสีมะเร็งวิทยาและคณะ
พบว่าอัตราการอยู่รอดโดยปราศจากการลุกลาม ยาวนานถึง 8 เดือน
ด้วยการรักษาเสริมจากการผ่าตัด หรือ ฉายรังสี
ด้วยความก้าวหน้าในเทคโนโลยี
การฉายรังสี และการใช้ยา ทำให้มีการศึกษาอย่างมีความหวังที่จะควบคุมโรคมากขึ้น ซึ่งก็มีรายงานจำนวนมากที่แสดงแนวโน้มน่าจะเป็นเช่นนั้น
แต่สิ่งที่แตกต่างของรายงานนี้ เป็นการศึกษาแบบสุ่มเป็นครั้งแรกในผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยมีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 94 คน แต่การศึกษาได้หยุดลง
เนื่องจากผลการรักษาที่ดีกว่าชัดเจนในผู้ป่วย 49 รายที่ถูกสุ่มการรักษา
โดยผู้ป่วยจำนวนครึ่งหนึ่งจะได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด หรือ ฉายรังสี
ร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด ส่วนอีกกลุ่มจะเป็นการให้ยาเคมีบำบัด โดยไม่ได้รับการรักษาเฉพาะที่ ซึ่งหมายถึงการผ่าตัดหรือการฉายรังสี ทั้งนี้การเลือกผ่าตัด หรือ ฉายรังสี
จะถูกเลือกด้วยทีมแพทย์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการรักษาที่สามารถทำได้โดยทั่วไป
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาเฉพาะที่ร่วมด้วย
มี Median PFS time หรือ อัตราการอยู่รอด
โดยปราศจากการลุกลามของโรคอยู่ที่ 11.9 เดือน ในขณะที่อีกกลุ่มที่ได้ยาเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว จะเท่ากับ 3.9 เดือน เท่านั้น และในกลุ่มนี้ พบ 28 คนที่มีการลุกลามหรือกระจาย โดยพบมากในกลุ่มที่ได้ยาเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว 16 คนเทียบกับ 12 คน
ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาเฉพาะที่ แต่ด้วยเหตุที่การศึกษานี้หยุดลงก่อน
จากผลการรักษาที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
จึงยังไม่สามารถสรุปอัตราการอยู่รอดที่แท้จริง ต้องอาศัยการติดตามต่อไป
สรุป คือ เราสามารถเพิ่มอัตราการอยู่รอด โดยปราศจากการลุกลามของโรค โดยเพิ่มการรักษาเฉพาะที่หลังการให้ยาเคมีบำบัด
ด้วยการผ่าตัด หรือ การฉายรังสี
ประเด็นที่น่าสนใจจากรายงานนี้
คือ
1. เป็นการเริ่มศักราชใหม่ในผู้ป่วยมะเร็งกระจายที่ปอด ซึ่งมีความหวังน้อยมาก ให้เริ่มต้นต่อสู้
เพื่อความหวังใหม่
2. การควบคุมโรคไม่ให้กำเริบขึ้น
ย่อมนำมาสู่ความหวังอัตราการอยู่รอดที่สูงขึ้น แม้รายงานนี้
ยังไม่สิ้นสุดด้วยผลการรักษาที่ดีเกินคาด
3. การศึกษาแบบสุ่มไปข้างหน้า
เป็นมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ แต่การทำการศึกษาแบบนี้ทำได้ยาก
ทั้งเรื่องความพร้อมในเรื่องเครื่องมือและทุนทรัพย์ ซึ่งเป็นการยากที่จะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย เพราะแม้แต่ในสถาบันใหญ่อย่าง MD Anderson ในอเมริกา ยังต้องเป็นความร่วมมือของ 3 สถาบัน
บทความนี้ จึงเป็นทั้งความหวัง
และเป็นแนวคิดให้ทีมสู้มะเร็ง ได้สู้เต็มที่ บนพื้นฐานของเหตุผล และแนวคิด
รวมทั้งการศึกษาต่างๆเป็นองค์ประกอบร่วมกัน อย่ายึดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นหลัก
จนสูญเสียโอกาสที่ดีไป ทั้งหมดจึงเป็นการประกอบโรคศิลป์ ที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง อย่างที่ควรจะเป็นครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น